วันศุกร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2552

ข้อสอบชุด3

ข้อสอบขุดที่ 3

3. คำว่า RGB ที่เกี่ยวกับสี RGB นั้นย่อมาจากอะไรก. RED GREAT BLANKข. RED GREEN BLUEค. REAL GROUP BESTง. RIGHT GIVE BEST

อธิบาย : โหมดสี RGB ย่อมาจาก Red Green Blue แสงสีขาวจากธรรมชาติหรือแสงจากดวงอาทิตย์ เกิดจากการผสมสีของแม่สีสามสีคือ แดง เขียวและน้ำเงิน ซึ่งเหมือนกับสีที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งโหมดสี RGB นี้ เหมาะสำหรับการนำภาพไปเป็น ฟิล์มสไลด์/เนกาตีฟ

URL: http://www.it-guides.com/lesson/pshop_04.html


6. MODEM คืออะไรก. อุปกรณ์แปลงสัญญาณ Digital ไปสู่สัญญาณ Analog และจากสัญญาณ Analog กลับมาเป็นสัญญาณ digital ซึ่งใช้ประโยชน์ในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ผ่านสัญญาณเช่น โทรศัพท์ เป็นต้นข. อุปกรณ์สร้างภาพ 3 มิติให้กับเกมส์ของบริษัท SEGA รุ่นใหม่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และออกวางตลาดในปี 2542 และแพร่หลายอย่างรวดเร็วไปในทุกประเทศค. ชื่อของจรวดทำลายชนิดใหม่ ที่ติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์สำหรับนำวิธีมีขนาดเล็กเท่าปากกา พกพาได้สะดวก แต่มีพลังทำลายเทียบเท่าหรือมากกว่า 10 กิโลเมตร แต่มีข้อดีคือไม่มีการแผ่รังสี แต่อย่างใดง. ถูกทุกข้อ
อธิบาย : Modem(Modulator Demodulator)คืออุปกรณ์ที่สามารถแปลงสัญญาณจาก Digital(สัญญาณข้อมูล) ไปเป็น Analog(สัญญาณเสียง) และจาก Analog ไปเป็น Digital เพื่อใช้ในการรับ-ส่งสัญญาณข้อมูลผ่านสายโทรศัพท์ Modulation คือ เทคนิคที่ใช้ในการนำหรือส่งข้อมูลไปให้ได้ไกลมากขึ้นกว่าเดิม โดยการรวมสัญญาณเสียง(Modulating Signal) เข้ากับสัญญาณความถี่สูง(Carrier Signal) เพื่อให้เกิดกำลังในการส่งสัญญาณเสียงไปได้ไกลยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติของสัญญาณความถี่สูง มักจะใช้ในการส่งวิทยุกระจายเสียง
URL: http://www.geocities.com/thinkingworld/network/modem.html

18. LAN คืออะไร ในเรื่องของคอมพิวเตอร์ก. สัตว์ชนิดหนึ่งที่ ชาวบ้านมักนำมาผัดเผ็ด หรือลาบข. ระบบ Internet ระบบใหม่ ที่ทำให้ทุกหน่วยงานเชื่อมต่อ Internet ได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ค. ระบบเครือข่ายระยะใกล้ (Local Area Network)ง. ระบบเครือข่ายระยะไกล ที่ทำให้คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อถึงกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Long Area Network)
อธิบาย : ย่อมาจาก Local Area Network ซึ่งแปลได้ว่า “ระบบเครือข่ายขนาดเล็ก” ที่ต้องประกอบด้วย Server และ Client โดยจะต้องมีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 เครื่องขึ้นไป ซึ่งจะทำหน้าที่เป็น ผู้ให้บริการ และ ผู้ใช้บริการ โดยที่ ผู้ให้บริการ ซึ่งเป็น Server นั้น จะเป็นผู้ควบคุมระบบว่าจะให้การทำให้การทำงานเป็นเช่นไร และในส่วนของ Server เองจะต้องเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่มีสถานะภาพสูง เช่นทำงานเร็ว สามารถอ้าง หน่วยความจำ ได้มาก มีระดับการประมวลผลที่ดี และจะต้องเป็นเครื่องที่จะต้องมีระยะการทำงานที่ยาวนาน เพราะว่า Server จะถูกเปิดให้ทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง
URL: http://www.netregis.com/serv-networklan.php

1 KB (กิโลไบต์) มีกี่ Byte (ไบต์)ก. 1024ข. 8ค. 256ง. 65536
อธิบาย : 1024 bits = 1 Kilobit
URL: http://www.mrpalm.com/board/view_board.php?id=78206

Octal number หมายถึงเลขฐานใดก. 2ข. 8ค. 16ง. 256
อธิบาย : ระบบเลขฐานแปด (octal number System) ระบบเลขฐานแปดเป็นระบบเลขที่มีเลขโดดที่ใช้ทั้งหมดแปดตัวเรียงตามลำดับค่าดังนี้ 0, 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7 ซึ่งเป็นระบบเลขที่มีความสำคัญมากอีกระบบหนึ่งที่ใช้ในการศึกษาวงจรในระบบดิจิตอลคอม พิวเตอร์ในการศึกษาระบบเลขฐานแปดนั้นก็ทำได้ในลักษณะเดียวกับระบบเลขฐานสิบหรือฐานสอง ซึ่งก็สามารถพิจารณาได้ทั้งเลขจำนวนเต็มหรือเลขหลังจุดทศนิยม ซึ่งสามารถกระจายตามค่าประจำหลัก ได้ค่าประจำหลักของเลขจำนวนเต็มจะเป็น โดยเริ่มจากหลักขวามือสุดไปทางด้านซ้ายเป็นลำดับจนถึงหลักซ้ายมือสุดคือหลักที่ n ที่มีค่าประจำหลักเป็น
URL: http://www.geocities.com/edward881th/octal.htm

43. NLQ (Near letter quality) คืออะไรก. คุณสมบัติของเครื่อง laser printer ท่านจะเห็นได้ที่ใต้เครื่อง laser printer ทุกยี่ห้อข. คุณสมบัติของเครื่องพิมพ์ Dot matrix ที่ทำให้เครื่องพิมพ์พิมพ์ตัวอักษรได้คมชัดที่สุดค. คุณสมบัติที่เป็นอีกชื่อหนึ่งของ DRAFT ในเครื่องพิมพ์ Dot matrixง. ชื่อเครื่องพิมพ์ Laser printer เครื่องแรกของโลกที่ถูกออกแบบโดย Bill gate
อธิบาย : Near Letter Quality เป็นการพิมพ์เอกสารที่มีคุณภาพคมชัดใกล้เคียงตัวอักษรปกติ ส่วน Draft เป็นการพิมพ์แบบร่างที่ไม่ต้องการความคมชัดมาก เช่น พิมพ์ใบเสร็จ
URL: http://suanpalm3.kmutnb.ac.th/thai/it_news%5Bread%5D.asp?id=18

49. 1 KB (กิโลไบต์) มีกี่ Byte (ไบต์)ก. 1024ข. 8ค. 256ง. 65536
อธิบาย : ไบต์ (byte) หมายถึง เนื้อที่ที่คอมพิวเตอร์จัดไว้สำหรับเก็บข้อมูล 1 ตัวอักษรตามรหัสแอสกี (เช่น A, B, C, ก, ข, ค, ง ฯลฯ) หรือจำนวนเต็ม 1 จำนวน (-128 ถึง 127 เมื่อคิดเครื่องหมาย หรือ 0 ถึง 255 เมื่อไม่คิดเครื่องหมาย) โดยปกติแล้ว 1 ไบต์จะประกอบด้วยข้อมูลเลขฐานสองจำนวน 8 บิต และใช้เป็นหน่วยวัดขนาดของหน่วยความจำหรือสื่อบันทึกข้อมูลว่า สามารถเก็บข้อมูลได้กี่ตัวอักษร
ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หน่วยวัดที่ใช้กันนั้น นิยมวัดเป็นกิโลไบต์ (Kilobyte) เมกะไบต์ (Megabyte) จิกะไบต์ (Gigabyte) และเทระไบต์ (Terabyte) ซึ่งแต่ละหน่วยวัดมีค่าตัวคูณต่างกัน 1,024 หรือ 210 หน่วย แต่มนุษย์จะประมาณค่าตัวคูณไว้ที่ 1,000 หน่วยเพื่อความสะดวกในการคำนวณ หน่วยวัดแต่ละหน่วยสามารถสรุปได้ดังนี้
1 กิโลไบต์ = 1,024 ไบต์
1 เมกะไบต์ = 1,048,576 ไบต์ หรือ 1,024 กิโลไบต์
1 จิกะไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ หรือ 1,024 เมกะไบต์
1 เทระไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ หรือ 1,024 จิกะไบต์
URL: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%8C

62. 1 MB (เมกะไบต์) มีกี่ KB (กิโลไบต์)ก. 8ข. 1024ค. 256ง. 65536
อธิบาย : ไบต์ (byte) หมายถึง เนื้อที่ที่คอมพิวเตอร์จัดไว้สำหรับเก็บข้อมูล 1 ตัวอักษรตามรหัสแอสกี (เช่น A, B, C, ก, ข, ค, ง ฯลฯ) หรือจำนวนเต็ม 1 จำนวน (-128 ถึง 127 เมื่อคิดเครื่องหมาย หรือ 0 ถึง 255 เมื่อไม่คิดเครื่องหมาย) โดยปกติแล้ว 1 ไบต์จะประกอบด้วยข้อมูลเลขฐานสองจำนวน 8 บิต และใช้เป็นหน่วยวัดขนาดของหน่วยความจำหรือสื่อบันทึกข้อมูลว่า สามารถเก็บข้อมูลได้กี่ตัวอักษร
ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หน่วยวัดที่ใช้กันนั้น นิยมวัดเป็นกิโลไบต์ (Kilobyte) เมกะไบต์ (Megabyte) จิกะไบต์ (Gigabyte) และเทระไบต์ (Terabyte) ซึ่งแต่ละหน่วยวัดมีค่าตัวคูณต่างกัน 1,024 หรือ 210 หน่วย แต่มนุษย์จะประมาณค่าตัวคูณไว้ที่ 1,000 หน่วยเพื่อความสะดวกในการคำนวณ หน่วยวัดแต่ละหน่วยสามารถสรุปได้ดังนี้
1 กิโลไบต์ = 1,024 ไบต์
1 เมกะไบต์ = 1,048,576 ไบต์ หรือ 1,024 กิโลไบต์
1 จิกะไบต์ = 1,073,741,824 ไบต์ หรือ 1,024 เมกะไบต์
1 เทระไบต์ = 1,099,511,627,776 ไบต์ หรือ 1,024 จิกะไบต์
URL: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%84%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B9%8C

4. Time sharing คืออะไรก. ยี่ห้อคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้ยานอวกาศเดินทางได้เร็วกว่าแสง หรือเทียบเท่าข. ระบบคอมพิวเตอร์ที่ทำให้ผู้ใช้หลายคนสามารถแบ่งใช้หน่วยประมวลผลกลางเครื่องเดียวกันค. ระบบ Internet ที่ใช้เวลาในการตัดสินการเข้าถึงข้อมูล จาก ISP คนละจุดง. ชื่อ CPU รุ่นใหม่ที่ออกแบบ โดย Intel corporation
อธิบาย : ระบบแบ่งเวลา (Time-sharing หรือ Multitasking)
เป็นการขยายระบบ multiprogramming ทำให้สามารถสับเปลี่ยนงานของคนหลาย ๆ คนเข้าสู่ซีพียู ซึ่งการสับเปลี่ยนที่ทำด้วยความเร็วสูงจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนครอบครองซีพียูอยู่เพียงผู้เดียว
URL: http://www.thaiall.com/os/os01.htm

5. Time slice คืออะไรก. การแบ่งเวลาเป็นเสี้ยวให้กับนาฬิกาแบบ Analog ทำงาน เพื่อให้นาฬิกาเดินได้ตรงที่สุดข. การแบ่งเวลาในระบบ Time sharing ซึ่งจะให้ผู้ใช้แต่ละคนมีเวลาใช้หน่วยประมวลผลกลางเท่ากับ Time slice ถ้าผู้ใช้ยังทำงานไม่เสร็จ ในช่วง Time slice แต่หมดเวลาก่อน ก็จะหยุดงานนั้น และยอมให้ Terminal อื่นใช้ CPU โดยมีเวลาเท่ากับ Timeslice และจะวนจนกระทั่งกลับไปหาค. ช่องว่างของเวลาที่เหลื่อมล้ำกันระหว่างปีเก่ากับปีใหม่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ปีหนึ่งมี 365 หรือ 366 วันง. ไม่มีข้อใดถูก
อธิบาย : Running เป็นสถานะที่ซีพียูกำลังรันโพรเซสนั้นอยู่ โดยระยะเวลาที่ทำการรันนั้นเรียกว่า Time Slice ซึ่งสามารถกำหนดได้โดยการเลื่อนที่เข็มที่ Clock ไปทางซ้ายหรือขวา (ตำแหน่ง ซ้ายสุด มี Time Slice จะสั้นที่สุด)
URL: http://www.kmitl.ac.th/~s7010154/manual.html

10. Multiprogramming คืออะไรก. การประมวลผลที่ทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมสามารถทำงานได้พร้อมกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องมี CPU มากกว่าสอง เชื่อมโยงกันอยู่ และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณข. การทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมประมวลผลได้พร้อมกัน โดยแบ่งการทำงานออกเป็นส่วน ๆ เช่นการอ่านข้อมูลจากแผ่น การสั่งพิมพ์ทางเครื่องพิมพ์ และการ Backup ข้อมูลลงเทปเป็นต้นค. การทำงานของโปรแกรมที่ทำงานได้พร้อม ๆ กันเช่น การทำงานในระบบ Windows ที่ยอมให้มีหลายโปรแกรมทำงานได้พร้อม ๆ กัน และมักเป็นการใช้ CPU ตัวเดียว และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณง. ไม่มีข้อใดถูก
อธิบาย : ระบบมัลติโปรแกรมมิ่ง (Multiprogramming)
การทำงานที่โหลดโปรแกรมไปไว้ในหน่วยความจำหลัก และพร้อมที่จะประมวลผลได้ทันที ระบบปฏิบัติการจะเลือกงานเข้าไปประมวลผลจนกว่าจะหยุดคอยงานบางอย่าง ในช่วงที่หยุดรอจะดึงงานเข้าไปประมวลผลต่อทันที ทำให้มีการใช้ซีพียูได้อย่างมีประสิทธิภาพ
URL: http://www.thaiall.com/os/os01.htm

9. Multiprocessing คืออะไรก. การประมวลผลที่ทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมสามารถทำงานได้พร้อมกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องมี CPU มากกว่าสอง เชื่อมโยงกันอยู่ และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณข. การทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมประมวลผลได้พร้อมกัน โดยแบ่งการทำงานออกเป็นส่วน ๆ เช่นการอ่านข้อมูลจากแผ่น การสั่งพิมพ์ทางเครื่องพิมพ์ และการ Backup ข้อมูลลงเทปเป็นต้นค. การทำงานของโปรแกรมที่ทำงานได้พร้อม ๆ กันเช่น การทำงานในระบบ Windows ที่ยอมให้มีหลายโปรแกรมทำงานได้พร้อม ๆ กัน และมักเป็นการใช้ CPU ตัวเดียว และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณง. ไม่มีข้อใดถูก
อธิบาย : ระบบมัลติโปรเซสเซอร์ (Multiprocessor system)
Symmetric-multiprocessing
การประมวลผลแบบสมมาตร หมายถึงการประมวลผลหลายโปรเซสเซอร์ที่ไม่มีโปรเซสเซอร์ตัวใดรับโหลดมากกว่าตัวอื่น
Asymmetric-multiprocessing
การประมวลผลแบบไม่สมมาตร หมายถึงการมีโปรเซสเซอร์ตัวหนึ่งเป็นตัวควบคุม และแบ่งงานแต่ละแบบให้โปรเซสเซอร์แต่ละตัวตามความเหมาะสม
URL: http://www.thaiall.com/os/os01.htm

11. Multitasking คืออะไรก. การประมวลผลที่ทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมสามารถทำงานได้พร้อมกัน ซึ่งคอมพิวเตอร์ที่จะทำงานแบบนี้ได้ต้องมี CPU มากกว่าสอง เชื่อมโยงกันอยู่ และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณข. การทำให้โปรแกรมมากกว่าหนึ่งโปรแกรมประมวลผลได้พร้อมกัน โดยแบ่งการทำงานออกเป็นส่วน ๆ เช่นการอ่านข้อมูลจากแผ่น การสั่งพิมพ์ทางเครื่องพิมพ์ และการ Backup ข้อมูลลงเทปเป็นต้นค. การทำงานของโปรแกรมที่ทำงานได้พร้อม ๆ กันเช่น การทำงานในระบบ Windows ที่ยอมให้มีหลายโปรแกรมทำงานได้พร้อม ๆ กัน และมักเป็นการใช้ CPU ตัวเดียว และเรียกการทำงานแบบนี้ว่าการทำงานแบบ พหุคูณง. ไม่มีข้อใดถูก
อธิบาย : ระบบแบ่งเวลา (Time-sharing หรือ Multitasking)
เป็นการขยายระบบ multiprogramming ทำให้สามารถสับเปลี่ยนงานของคนหลาย ๆ คนเข้าสู่ซีพียู ซึ่งการสับเปลี่ยนที่ทำด้วยความเร็วสูงจะทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนครอบครองซีพียูอยู่เพียงผู้เดียว
URL: http://www.thaiall.com/os/os01.htm

12. ปัญญาประดิษฐ์ (AI-Artificial Intelligence) ประกอบด้วย 3 สิ่ง สิ่งใดต่อไปนี้ไม่ใช่ก. การประมวลภาษาธรรมชาติ (Natural language processing) ซึ่งหมายถึงการทำให้คอมพิวเตอร์สามารถพูด อ่าน และเข้าใจภาษาที่มนุษย์ใช้ในชีวิตประจำวันข. หุ่นยนต์ (Robotics) คือการสร้างหุ่นยนต์ที่เคลื่อนไหวเรียนแบบมนุษย์ สามารถเข้าใจคำสั่ง และเคลื่อนไหวได้อย่างเหมาะสมค. ระบบผู้เชี่ยวชาญ(Expert Systems) คือการพัฒนาให้คอมพิวเตอร์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเหมือนที่มนุษย์เชี่ยวชาญ และสามารถคิด หรือตัดสินใจทำในสิ่งที่เหมาะสมง. ระบบปกป้องตนเองจากภยันอันตราย (Self protection) เพราะการประดิษฐ์ปัญญาจะต้องทำให้ปัญญานั้นรู้จักการปกป้อง เพื่อให้เกิดความอยู่รอด เหมือนสัญชาติญาณของสัตว์ที่ต้องการความอยู่รอดเป็นอันดับแรก
อธิบาย : AI : Artificial Intelligence หรือปัญญาประดิษฐ์เป็นศาสตร์แขนงหนึ่งของวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องกับวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์มีความสามารถคล้ายมนุษย์หรือเลียนแบบพฤติกรรมมนุษย์ โดยเฉพาะความสามารถในการคิดเองได้ หรือมีปัญญานั่นเอง ปัญญานี้มนุษย์เป็นผู้สร้างให้คอมพิวเตอร์ จึงเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ มุมมองต่อ AI ที่แต่ละคนมีอาจไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการความฉลาดโดย คำนึงถึงพฤติกรรมที่มีต่อสิ่งแวดล้อมหรือคำนึงการคิดได้ของผลผลิต AI ดังนั้นจึงมีคำนิยาม AI ตามความสามารถที่มนุษย์ต้องการให้มันแบ่งได้ 4 กลุ่ม ดังนี้
Acting Humanly : การกระทำคล้ายมนุษย์ เช่น - สื่อสารกับมนุษย์ได้ด้วยภาษาที่มนุษย์ใช้ เช่น ภาษาอังกฤษ เป็นการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) อย่างหนึ่ง เช่น เพื่อน ๆ ใช้เสียงสั่งให้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสารให้ - มีประสาทรับสัมผัสคล้ายมนุษย์ เช่นคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) คอมพิวเตอร์มองเห็น รับภาพได้โดยใช้อุปกรณ์รับสัญญาณภาพ (sensor) - หุ่นยนต์ช่วยงานต่าง ๆ เช่น ดูดฝุ่น เคลื่อนย้ายสิ่งของ - machine learning หรือคอมพิวเตอร์เกิดการเรียนรู้ได้ โดยสามาถตรวจจับรูปแบบการเกิดของเหตุการณ์ใด ๆ แล้วปรับตัวสู่สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไปได้
Thinking Humanly : การคิดคล้ายมนุษย์ ก่อนที่จะทำให้เครื่องคิดอย่างมนุษย์ได้ ต้องรู้ก่อนว่ามนุษย์มีกระบวนการคิดอย่างไร ซึ่งการวิเคราะห์ลักษณะการคิดของมนุษย์เป็นศาสตร์ด้าน cognitive science เช่น ศึกษาโครงสร้างสามมิติของเซลล์สมอง การแลกเปลี่ยนประจุไฟฟ้าระหว่างเซลล์สมอง วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงทางเคมีไฟฟ้าในร่างกายระหว่างการคิด ซึ่งจนถึงปัจจุบันเราก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า มนุษย์เรา คิดได้อย่างไร
Thinking rationally : คิดอย่างมีเหตุผล หรือคิดถูกต้อง โดยใช้หลักตรรกศาสตร์ในการคิดหาคำตอบอย่างมีเหตุผล เช่น ระบบผู้เชี่ยวชาญ
Acting rationally : กระทำอย่างมีเหตุผล เช่น agent (agent เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถในการกระทำ หรือเป็นตัวแทนในระบบอัตโนมัติต่าง ๆ ) สามารถกระทำอย่างมีเหตุผลคือ agent ที่กระทำการเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ เช่น agent ในระบบขับรถอัตโนมัติที่มีเป้าหมายว่าต้องไปถึงเป้าหมายในระยะทางที่สั้นที่สุด ต้องเลือกเส้นทางที่ไปยังเป้าหมายที่สั้นที่สุดที่เป็นไปได้จึงจะเรียกได้ว่า agent กระทำอย่างมีเหตุผล อีกตัวอย่างเช่น agent ในเกมหมากรุกมีเป้าหมายว่าต้องเอาชนะคู่ต่อสู้ ต้องเลือกเดินหมากที่จะทำให้คู่ต่อสู้แพ้ให้ได้ เป็นต้น
URL: http://www.nkp.go.th/content_detail.php?content_id=23&cate_id=

15. ฐานข้อมูล (Database) จะแก้ปัญหาเรื่องใดต่อไปนี้ไม่ได้ก. การซ้ำซ้อนของข้อมูลข. ข้อมูลไม่เชื่อมโยงถึงกันค. ความไม่ทันสมัยของข้อมูลง. ไม่มีข้อมูล
อธิบาย : ฐานข้อมูล (Database) คือ กลุ่มของข้อมูลที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน เช่น กลุ่มข้อมูลเกี่ยวกับพนักงานบริษัท ประกอบด้วย รหัสพนักงาน ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรศัพท์ และกลุ่มข้อมูลดังกล่าวถูกจัดเก็บอยู่รวมกันหลาย ๆ กลุ่ม ซึ่งอาจจะเก็บอยู่ในรูปแฟ้มเอกสารหรืออยู่ในคอมพิวเตอร์
กล่าวโดยสรุปแล้ว ฐานข้อมูลมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
เป็นเรื่องเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูล
ข้อมูลที่จัดเก็บมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องเป็นเรื่องเดียวกัน
สามารถแสดงออกมาอยู่ในรูปแบบของตารางได้
URL: http://www.phcpl.com/sakda/Database_Table/database.htm

27. ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใดที่เป็นพื้นฐานของภาษา DELPHIก. Cข. BASICค. PASCALง. RPG
อธิบาย : เป็น compiler ที่เขียนแบบ visual คล้ายๆ กับ vb เขียนโดยอาศัยพื้นฐานของ ภาษา PASCAL จุดเด่น : เน้นการเขียนแบบ OOP เป็นหลักตั้ง ver 1.0 app : หลังจาก compile มาแล้ว จะได้ exe ที่สามารถเอาไป run ที่เครื่องได้เลยโดยไม่ต้องมีตัว runtime ช่วย run
URL: http://www.thaiadmin.org/board/index.php?topic=71243.new

31. ภาษาคอมพิวเตอร์ภาษาใด มีรูปแบบคล้าย PERLก. Cข. BASICค. PASCALง. RPG
อธิบาย :
ภาษา Perl
ข้อควรทราบก่อนลงมือเขียน
เป็นสิ่งจำเป็น ที่ท่าน ควรจะศึกษาภาษาอื่นให้เข้าใจมาก่อน แบบงู ๆ ปลา ๆ ก็ยังดี เช่นภาษาเบสิก
หรือ pascal หรือ c ก็ยิ่งเยี่ยมไปเลย เพราะภาษานี้ ต่างกับภาษาอื่นอยู่อย่างหนึ่ง คือไม่ใช้ภาษาพื้นฐานสำหรับศึกษาให้เข้าใจได้ง่าย ๆ แต่เป็นภาษาที่สนับสนุนการใช้งานเว็บของผู้เขียน
homepage เป็นแล้วในระดับกลางถึงสูง จึงไม่เหมาะกับผู้เริ่มต้นเขียนภาษานี้ภาษาเป็นภาษาแรก หรือภาษาที่สองรองจาก html หากตั้งใจจะเขียนภาษานี้เป็นภาษาที่สองจริง ๆ
ก็ไม่เป็นไรเพราะทำบทเรียนพื้นฐานไว้ให้ศึกษาการเขียนโปรแกรมแบบมีโครงสร้างไว้ด้วยเช่นกัน ก่อนเริ่มศึกษา ต้องมี server ที่จะใช้ทดสอบ จากประสบการณ์ของ มี 2 อย่างให้เลือก คือ ลงโปรแกรม web server ในเครื่อง PC ของตนเองที่มี perl compiler ในตัว เช่น WebSitepro ซึ่งทำให้ใช้ perl ในเครื่องโดยไม่ต้อง online และอีกวิธีคือ การขอ free homepage จาก hypermart.net ซึ่งตัวอย่างทั้งหมดของผมจะใช้งานได้ที่ hypermart นี้ทันที และผลที่ท่านเขียนจากการศึกษาจะใช้ทดลอง และจำไปใช้จริงได้ที่นี่บทเรียนทั้งหมดนี้ เน้นการเขียน perl เพื่อจัดการกับข้อมูล โดย รับคำสั่งผ่านเว็บ และให้ผลออกมาทางเว็บ หรือไปเพิ่ม ลบ แก้ไขข้อมูล ที่ถูกจัดเก็บไว้ใน web server
ถ้าทิ้งการเขียนโปรแกรมไปนาน ควรทบทวนสักหน่อยว่า ภาษาคอมพิวเตอร์แบบมีโครงสร้าง (structure programming) จะมีหลักการ 3 หลักการ
-การทำงานของโปรแกรมแบบตามลำดับ (Sequence) -การทำงานแบบเลือกตามเงื่อนไข (Decision) -การทำงานแบบทำซ้ำ (Loop)
URL: http://mail.hu.ac.th/~s4052051/ex41.html

43. NLQ (Near letter quality) คืออะไรก. คุณสมบัติของเครื่อง laser printer ท่านจะเห็นได้ที่ใต้เครื่อง laser printer ทุกยี่ห้อข. คุณสมบัติของเครื่องพิมพ์ Dot matrix ที่ทำให้เครื่องพิมพ์พิมพ์ตัวอักษรได้คมชัดที่สุดค. คุณสมบัติที่เป็นอีกชื่อหนึ่งของ DRAFT ในเครื่องพิมพ์ Dot matrixง. ชื่อเครื่องพิมพ์ Laser printer เครื่องแรกของโลกที่ถูกออกแบบโดย Bill gate
อธิบาย : NLQเอ็นแอลคิว
ความหมายย่อมาจาก near letter quality (คุณภาพเกือบคมชัด) แปลตามตัวอักษรว่า เกือบเหมือนตัวพิมพ์ดีด ใช้เป็นคำอธิบายถึงคุณภาพของเครื่องพิมพ์ว่า สามารถพิมพ์ได้เกือบคมชัด หรือใกล้เคียงตัวพิมพ์ดีด เครื่องพิมพ์ที่มีคุณภาพ จะมองดูเหมือนการนำจุดมาเรียงกันให้เป็นรูปตัวอักษร ฉะนั้น เครื่องพิมพ์ชนิดที่มีจุดมาก ๆ ติด ๆ กัน จะทำให้ความคมชัด (high resolution) ตัวอักษรที่พิมพ์ออกมา จะดูสวยและประณีต เหมือนตัวพิมพ์ดีด การวัดคุณภาพของเครื่องพิมพ์ จึงวัดเป็นจำนวนจุดต่อนิ้ว เช่น 600 จุดต่อนิ้ว ย่อมดีกว่า 300 จุดต่อนิ้ว เป็นต้น (300 จุดต่อนิ้ว พอจะเรียกได้ว่า คุณภาพเกือบคมชัด) ดู printer และ letter quality ประกอบ
URL: http://guru.sanook.com/dictionary/dict_comp/NLQ/

84. ความเร็ว 1 nanosecond หมายถึงเท่าใดก. 3 ต่อล้านล้านวินาทีข. 3 ต่อล้านวินาทีค. 1 ต่อพันวินาทีง. 1 ต่อพันล้านวินาที
อธิบาย :
nanosecond

1 nanosecond (ns หรือ nsec) คือ 1 ส่วน พันล้าน (1/1,000,000,000) หรือ 10^-9 ของวินาที และโดยทั่วไปใช้วัดเวลาของการอ่าน หรือเขียนที่เข้าถึงหน่วยความจำชั่วคราว (RAM)สำหรับการเปรียบเทียบ 1 Millisecond (ms หรือ msec) คือ 1 ส่วนพัน(1/000 ของวินาที และโดยทั่วไปใช้วัดเวลาของการอ่าน หรือเขียนจากฮาร์ดดิสก์ หรือ เครื่องเล่น CD-ROM หรือการวัดเวลาเดินทางแพ็คเกตบนอินเตอร์เน็ตmicrosecond คือ 1 ส่วน ล้าน (1/1,000,000) หรือ 10-6 ของวินาทีpicosecond คือ 1 ส่วนล้านล้าน ( 1/1,000,000,000,000) หรือ 10-12 ของวินาที หรือ 1 ส่วนล้านของ microsecondfemtosecond คือ 1 ส่วนล้าน (1/1,000,000) ของ nanosecond หรือ 10-15 ของวินาที และบางครั้งใช้วัดในเทคโนโลยีเลเซอร์attosecond คือ 10-18 วินาที และใช้ในการวิจัยโฟตอน
URL: http://www.bcoms.net/dictionnary/detail.asp?id=401

52. 1 TB (เทราไบต์) มีกี่ GB (กิกะไบต์)ก. 65536ข. 8ค. 256ง. 1024
อธิบาย : ISDN ย่อมาจาก Integrated Services Digital Network เป็นโปรโตคอล สำหรับสื่อสาร ที่ให้บริการ โดยบริษัทโทรศัพท์พื้นฐานต่างๆ สามารถให้บริการ เชื่อมต่อความเร็วสูง ระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ และเครือข่าย ในสถานที่ต่างๆ ได้
URL: http://itd.nha.co.th/download/nha_news/word_network2.doc

ไม่มีความคิดเห็น: